
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ต้องแพ้คาบ้าน 3 นัดติดต่อกัน หลังโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาถล่มคาแอนฟิลด์ และนี่คือ 4 ประเด็นสำคัญที่ได้เห็นจากเกมนี้
1.อลิสสันพลาดหนักมาก
ต้องบอกเลยว่าจบแมตช์นี้ไป อลิสสัน เบคเกอร์ นายด่านเลือดแซมบ้าของ หงส์แดง กลับไปอยู่ที่บ้านไปอาจถึงขั้นฝันร้ายได้เลย เพราะความพ่ายแพ้ของลิเวอร์พูลในเกมนี้ มันเกิดขึ้นจากความผิดพลาดแบบไม่ได้ตั้งใจของเขา เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จาก อิลคาย กุนโดกัน ในนาทีที่ 49 ต่อจากนั้นนาทีที่ 63 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มายิงจุดโทษให้ ลิเวอร์พูล ตีเสมอเป็น 1-1 ทว่านาทีที่ 73 อลิสสัน ดันจ่ายบอลพลาดไปเข้าทาง ฟิล โฟเดน ดึงบอลเข้าเขตโทษก่อนจ่ายเข้ากึ่งกลางให้ กุนโดกัน ยิงเข้าไป เท่านั้นยังน้อยเกินไป นาทีที่ 76 อลิสสัน เจ้าเดิม ก็จ่ายบอลไปเข้าทาง แบร์นาโด สิลวา ดักบอลได้แถวข้างเขตโทษฝั่งขวา ก่อนเลี้ยงมาเปิดไปที่เสาสองให้ ราฮีม สเตอร์ลิง กระแทกเข้าไปให้ สิตี้ นำห่าง 3-1 ก่อนที่ ฟิล โฟเดน จะมาซัดปิดกล่องในนาทีที่ 83 พาเรือใบสีฟ้า บุกมากระหน่ำ ลิเวอร์พูล ถึงถิ่นแอนฟิลด์ 4-1
2.โจนส์ เฉิดฉาย-โฟเดน ท็อปฟอร์ม
ถ้าเกิดต้องเลือกนักเตะที่เยี่ยมที่สุดของลิเวอร์พูลในเกมนี้ ก็น่าจะเป็น เคอร์ติเตียนส โจนส์ มิดฟิลด์พลังชายหนุ่ม ที่โชว์ฟอร์มได้ดีเลิศดีเหลือเกิน การพาบอลดึงขึ้นหน้าของเขานั้นทำให้เกิดปัญหาให้สิตี้เป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งสามารถหาจังหวะให้ตัวเองได้จบสกอร์ แต่ว่าโชคร้ายที่โดน เอแดร์สัน จอมหนึบของแมนฯ ซิตี้ ปัดออกไปได้ แต่ว่าข้อสงสัยยิ่งกว่าเป็นการที่ โจนส์ ถูกเปลี่ยนตัวออกแบบงงเต็กๆในนาทีที่ 68 ซึ่งในตอนนั้นสกอร์ยังเป็น 1-1 แต่ว่าพอ โจนส์ ออกไป หงส์แดง ก็ไม่มีผู้เล่นที่จะปั่นป่วนหรือสร้างความรู้สึกไม่สบายใจให้กับแนวรับกลุ่มเยี่ยม รวมทั้งมาโดนยิง 3 ประตูรวดสุดท้าย เรียกได้ว่าเป็นการตกลงใจที่ผิดพลาดของ เยอร์เกน คลอปป์ อย่างแท้จริง เพราะตัวที่ส่งลงมาแทนอย่าง เจมส์ ไม่ลเนอร์ ก็ไม่สามารถช่วยกลุ่มได้เลย
ส่วนนักเตะที่เล่นเยี่ยมที่สุดของเรือใบสีฟ้าก็คือ ฟิล โฟเดน ที่มีความรู้ส่วนตัวสูงมาก มีส่วนกับ 3 ประตูที่กลุ่มทำได้ในเกมนี้ เริ่มจากประตูขึ้นนำ 1-0 เขาได้ซัดในเขตโทษแล้ว อลิสสัน ปัดบอลไปเข้าทาง กุนโดกัน ซ้ำเข้าไป ต่อจากนั้นประตู 2-1 เขาดักบอลจาก อลิสสัน ไว้ได้ ก่อนเลี้ยงไปจ่ายให้ กุนโดกัน ยิงเข้าไป รวมทั้งประตู 4-1 เขาก็ใช้ความรู้ส่วนตัวลากเข้าไปทำประตูอย่างงดงาม
3.หงส์แดงเกือบจะหมดลุ้นแชมป์จากความพ่ายแพ้ในเกมนี้ ทำให้ หงส์แดง มี 40 คะแนนเหมือนเดิม ตามหลังผู้นำฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ห่างถึง 10 คะแนน แถมยังแข่งขันมากยิ่งกว่า 1 นัดอีกต่างหาก มองแล้วจังหวะที่ พลพรรคลิเวอร์พูล จะคุ้มครองป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้นั้นค่อนข้างริบรี่เกินทน น่าจะหันมาจุดโฟกัสกับแนวทางการทำผลงานให้ดียิ่งขึ้นเพื่อติดท็อปโฟร์น่าจะเป็นตัวเลือกที่เยี่ยมที่สุดตอนนี้ เพราะปัจจุบัน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ก็โกยแต้มมาที่ 39 คะแนน ไล่จี้ลิเวอร์พูลเหลือ 1 แต้มเพียงแค่นั้น ถ้าเกิด เยอร์เกน คลอปป์ ไม่สามารถปรับภาวะจิตใจของลูกทีมให้กลับมากล้าแกร่งได้ บอกเลยว่างานนี้อาจถึงขั้นหลุดท็อปโฟร์ก็เป็นได้ในตอนที่เหลือของฤดูกาล
4.เรือใบโหดเหี้ยมสุด หยุดไม่อยู่ มุ่งสู่แชมป์
การบุกมากำราบ “ลิเวอร์พูล” หงส์แดง ได้ถึงถิ่นแอนฟิลด์ เป็นครั้งแรกของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าชัยชนะติดต่อกัน 14 นัด รวมทุกรายการ รวมทั้งเป็นการเก็บชัยในลีก 10 นัดติดต่อกันอีกต่างหาก จะบอกว่านี่เป็น “ฟอร์มแชมป์” ก็อาจไม่ผิดนัก เพราะผลงานของพวกเขามันบ่งบอกถึงคุณภาพ ความเฉียบขาด รวมทั้งความเสมอต้นเสมอปลายเอาไว้หมดแล้ว กลุ่มอื่นๆที่ตามมาก็คงได้แต่ว่าแช่งให้พวกเขาสะดุดพลาดทำแต้มตก แต่ว่าพวกเขาก็อาจไม่แพ้ติดต่อกันแบบรัวๆอยู่แล้ว ถ้าเกิดยังเล่นได้แบบนี้ต่อไปเรื่อยเรือใบลำนี้ใกล้ที่จะกลับมาทวงแชมป์คืนเหลือเกินแล้ว
More Stories
asia999 สมัครเว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์ คาสิโนออนไลน์ สล็อต ฝาก-ถอน ไม่มีขั้นต่ำ
บาคาร่า sexybaccarat168.com เกมคาสิโนออนไลน์ อันดับ 1
77evo เดิมพันสล็อตออนไลน์ เว็บตรง คาสิโนออนไลน์ โบนัสมาก แจ็คพอตหนัก